มาทำความรู้จักกับสอบ IELTS ที่มาของความนิยม

มหาวิทยาทั่วโลกต่างๆ ยอมรับและยึดถือให้ The International English Language Testing System หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า IELTS เป็นดัชนีมาตรฐานในการวัดความรู้ ความสามารถของนักเรียนทั่วๆไป ในทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษ โดยการสอบ IELTS นั้นจะแบ่งออกเป็นสองหมวดหมู่ ได้แก่ General Training และ Academic Writing และในตัวสอบนั้นจะแบ่งการสอบย่อยลงไปอีก 4 ส่วน ฟัง อ่าน เขียน พูด และจะนำคะแนนเฉลี่ยของแต่ละพาร์ทมาเฉลี่ยเพื่อหาคะแนน โดยที่การสอบ IELTS นั้น จะมีคะแนนเต็ม สเกล ตั้งแต่ 0 ถึง 9.0 แต่น้อยคนมากๆถึงจะได้คะแนนเต็มกัน โดยทั่วไปแล้ว มหาวิทยาลัยภาคอินเตอร์ในประเทศไทยจะรับนักศึกษาเข้าไปด้วยวิธีการยื่นคะแนนสอบ IELTS ด้วนเกณฑ์คะแนนเฉลี่ยรวมที่ไม่ต่ำกว่า 6.0-6.5 ถือเป็นค่าเฉลี่ยโดยทั่วไปของคนไทย(IELTS Test Taker Performance 2017) แต่สำหรับมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกจากประเทศ อังกฤษ หรือ อเมริกานั้น จะมีการแข่งขันสูงและเป็นที่น่าจับตามองจากเด็กรุ่นใหม่จากทั่วทุกมุมโลกนั้น จึงทำให้เกณฑ์การรับสูงกว่าปกติ อยู่ที่ 6.5-7.0 ดังนั้นคนไทยที่มีแผนจะไปศึกษาต่างประเทศนั้น จะต้องพยายามหนักเพื่อที่จะสอบให้ได้คะแนนสูงๆ

การสอบแต่ละครั้งนั้นมีค่าใช้จ่ายประมาณ 6000 บาท โดยองค์กรที่จัดทำข้อสอบให้กับประเทศไทยนั้นก็คือ British Council ผู้สมัครสอบ สามารถสอบได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง และสามารถรอประกาศผลสอบได้หลังจากสอบเสร็จไปแล้ว 2-3 สัปดาห์ ผลคะแนนสอบจะมีอายุเพียงสองปีเท่านั้นนับจากวันที่สอบ ดังนั้น นักเรียนที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้น ม.3-ม.5 ควรที่จะเตรียมตัวและทะยอยสอบกันแล้ว

ข้อดีของการสอบ IELTS นั้นคือการที่ เราสามารถใช้คะแนนสอบตัวนี้ยื่นให้มหาวิทยาลัยทั้งในประเทศและต่างประเทศ จะดีกว่าการสอบแยกของมหาลัยเช่น CU-TEP หรือ TU-GET คือข้อสอบที่ทางมหาลัยเฉพาะนั้นๆเป็นคนออกและสร้างเกณฑ์การให้คะแนนเอง ซึ่งจะไม่สามารถเอาคะแนนสอบนั้นๆไปยื่นสมัครที่มหาลัยอื่นๆได้เลย อีกหนึ่งข้อดีของ IELTS นั้นก็คือเราสามารถรู้ได้ถึงคะแนนแต่ละทักษะ ไม่ว่าจะเป็นการ พูด อ่าน เขียน หรือ ฟัง ก็สามารถตรวจสอบและพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นในอนาคตได้

ข้อเสียของการสอบ IELTS นั้นก็คงจะหนีไม่พ้นค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างจะสูงในการสอบ ดังนั้นผู้สมัครสอบ ไม่ควรสอบหลายๆครั้งติดกันนะครับ ส่วนตัวผมคิดว่าเราลองไปสอบครั้งแรกเพื่อวัดระดับเรา ให้ได้เฉลี่ยรวมกันประมาณ 6.0-6.5 ถ้าได้คะแนนตามที่ต้องการก็ดีไป แต่ถ้าคะแนนส่วนไหนไม่ถึง เราค่อยฝึกฝน เรียนเพิ่มเติมเพื่อก้ไขข้อผิดพลาดของเราอีกทีนะครับ

จากใจ ทีมงาน Chulatutorfornong

อ้างอิง

https://www.ielts.org/teaching-and-research/test-taker-performance